ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) “RT” เตรียมไอพีโอ 300 ล้านหุ้น เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ระดมทุนพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เครื่องมือเครื่องจักร ก่อสร้างโรงซ่อมและอาคารเก็บวัสดุแห่งใหม่ตามแผนธุรกิจ ผนึก APM ที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.ฟิลลิป แกนนำการจัดจำหน่าย เดินสายโรดโชว์ 14 จังหวัด
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง หรือ RT เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือไฟลิ่ง เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ของ RT ในวันที่ 30 กันยายน 2563 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยหลังจากนี้ บริษัทเตรียมเดินหน้านำเสนอข้อมูลธุรกิจของบริษัท (โรดโชว์) พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป โดยจะทำการโรดโชว์ 14 จังหวัด ทั่วประเทศไทย ประกอบด้วย ระยอง ชลบุรี นครปฐม ราชบุรี พิษณุโลก นครสวรรค์ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา และกรุงเทพมหานคร
“ธุรกิจของ RT มีศักยภาพในการเติบโต เนื่องจากกลุ่มผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมายาวนาน เป็นหนึ่งในผู้นำงานรับเหมาก่อสร้างด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค ที่ต้องอาศัยความชำนาญและเทคโนโลยีระดับสูง มีประสบการณ์ในงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเป็นอย่างดี การเดินทางไปโรดโชว์จึงเป็นการนำเสนอข้อมูลให้นักลงทุนได้เข้าใจธุรกิจของบริษัทมากยิ่งขึ้น” นายสมภพ กล่าว
นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า RT มีทุนจดทะเบียนจำนวน 550 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 400 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และอีกจำนวน 300 ล้านหุ้น จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) หรือคิดเป็นสัดส่วน 27.27% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO เพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) (RT) กล่าวว่า RT เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษงานรับเหมาก่อสร้างด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิคที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง ด้วยประสบการณ์ที่มีมากว่า 19 ปี ทำให้ RT มีความชำนาญในธุรกิจ โดยบริษัทแบ่งประเภทการให้บริการออกเป็น 5 ประเภท คือ 1.งานก่อสร้างอุโมงค์และโครงสร้างใต้ดิน 2.งานก่อสร้างเขื่อน 3.งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 4.งานก่อสร้างท่อลอดใต้ดินด้วยวิธีดันท่อและวิธีเจาะและดึงท่อ และ 5.งานก่อสร้างด้านอื่นๆ เช่น งานป้องกันและเสริมเสถียรภาพทางลาด งานขุดดินและหินทั้งแบบใช้ระเบิดและไม่ใช้ระเบิด งานเจาะสำรวจธรณีวิทยา งานปรับปรุงฐานรากด้วยวิธีอัดฉีดน้ำปูน งานถนนและสะพาน งานประตูระบายน้ำ และงานวางรางรถไฟ เป็นต้น
ทั้งนี้ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างถือเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศไทย จากผลงานการก่อสร้างของบริษัทที่มีคุณภาพ สามารถส่งมอบงานให้ลูกค้าตามมาตรฐานงานก่อสร้าง พร้อมทั้งมีเครื่องจักรที่ทันสมัยในการทำงาน ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี และเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของบริษัทคือ ก้าวสู่ความเป็นเลิศด้านงานก่อสร้างทางวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค